Headline:  ความภาคภูมิใจของสฟาลบาร์

Date: 11 มกราคม 2559
เครื่องยนต์เรือ| ข่าว | โซลูชั่น (hashtag)

การเดินเรือในมหาสมุทรอาร์กติกในบางครั้งก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบาก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางสภาพคลื่นน้ำในท้องทะเล หรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเรือ เอลลิ่ง คาลเซ่น เรือที่ถูกประกอบขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีสมรรถนะความเร็วสูงสุดที่ 2,000 แรงม้า ที่สามารถแล่นฝ่ากระแสคลื่นน้ำในท้องทะเลอาร์กติกได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถกินน้ำลึกได้สูงสุดถึง 15 เมตร ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรือลำนี้จึงเป็นเรือที่ชาวสฟาลบาร์ภาคภูมิใจ

หากพูดถึงท่าเรือในหมู่เกาะสฟาลบาร์  หลายคนจะต้องนึกถึงคนดังอย่าง เคอทิล แบรเตน นายท่าแห่งเมืองหลวงลองเยียร์เบียน ประเทศนอร์เวย์ เพราะชื่อของเค้าโด่งดังเป็นอย่างมากในแวดวงธุรกิจเรือ

รูปที่ 1 – “ไม่มีเรือลำไหนบนโลกนี้ที่จะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเหมือนเรือลำนี้อีกแล้ว” นายท่า เคอทิล แบรเตนกล่าว

เรือลำใหม่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือในประเทศฟินแลนด์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็นเรือตรวจการณ์ขจัดคราบน้ำมันในท้องทะเล และปฏิบัติการณ์กู้ภัย ซึ่งเรือลำนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะที่ทนทานในการใช้งานกับสภาพอากาศและคลื่นลมในท้องทะเลอาร์กติก เป็นการนำเทคโนโลยีที่แตกต่างไปจากเดิมมาประกอบไว้ด้วยกัน ทั้งสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ที่ทำความเร็วที่ดีเยี่ยม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ครบครัน ล้วนเป็นวิวัฒนาการแบบใหม่ที่เรือลำนี้มี

หลักเกณฑ์ของมาตรฐานรูปแบบใหม่

“เรือเอลลิ่ง คาลเซ่น เป็นเรือที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีเรือลำไหนในมหาสมุทรอาร์กติกเทียบได้” แบรเตนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ในช่วงฤดูหนาวของปี ชาวสฟาบร์กว่า 2,500 คน ต้องอาศัยท่ามกลางความหนาวเหน็บ และอยู่อย่างเงียบสงบราวกับถูกตัดขาดออกจากโลกใบนี้

รูปที่ 2 – ทุกอย่างบนเรือ เอลลิ่ง คาลเซ่น ได้รับการออกแบบระบบตามหลักเกณฑ์เดียวกับเครื่องบินพาณิชย์ เป็นระบบการควบคุมที่แยกเป็นอิสระต่อกัน 2 ระบบ กุสตาฟ ลินด์

“เรือ เอลลิ่ง คาลเซ่น เปรียบเสมือนเรืออเนกประสงค์ ที่มีคุณสมบัติการใช้งานเข้ากับสภาพทะเลขั่วโลกเหนือได้อย่างแท้จริง เครื่องยนต์เรือถูกออกแบบมาให้สามารถลากจูงได้ถึง 6.2 ตัน มีกระบอกฉีดน้ำดับเพลิงแรงดันสูง และมีเรือปฐมพยาบาลพ่วงข้างไว้สำหรับรองรับและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน” แบรเตนกล่าว

เครื่องยนต์ที่ไร้เสียงรบกวน

เรือลำนี้ได้ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เรือ สแกนเนีย รุ่น วี8 ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 1,000 แรงม้า เอาไว้ด้วยกันถึง 2 เครื่อง แต่แปลกมากที่ เคอทิล แบรเตนและลูกเรือของเค้าไม่เคยได้ยินเสียงรบกวนใดๆจากเครื่องยนต์เรือ สแกนเนียนี้เลย แม้ว่าเค้าจะแล่นด้วยความเร็วถึง 40 นอต ราวกับว่าบินอยู่บนผืนน้ำธารน้ำแข็งก็ตาม

รูปที่ 3 – “สมรรถนะของเรือ และเครื่องยนต์ ต้องมาควบคู่กัน และต้องสามารถรับมือกับทุกสภาวะภูมิอากาศที่รุนแรงได้เป็นอย่างดี” กุสตาฟ ลินด์

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของลูกเรือ ทั้งในยามหลับ และในยามตื่น” “เครื่องยนต์ของเรือลำนี้ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานในระบบที่ไร้เสียงรบกวน เหมือนนั่งอยู่ในสำนักงานที่หรูหราแม้ในขณะที่เรากำลังเดินทางด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด”

ตัวเรือ เอลลิ่ง คาลเซ่น ใช้วัสดุเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อฝ่าธารน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก และมีระบบควบคุมการเดินเรือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ทั้งระบบควบคุมพวงมาลัย โรลส์-รอยซ์ และเครื่องยนต์ วี8 จากสแกนเนีย ที่ทรงพลัง ล้วนควบคุมด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่

ให้ความรู้ศึกราวกับบินอยู่

“ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการออกแบบตามหลักการเดียวกันกับเครื่องบินพาณิชย์ โดยมีระบบอิสระ แยกจากกัน 2 ระบบ ซึ่งถ้าเกิดกรณีผิดพลาดขึ้น ระบบใดระบบหนึ่งจะทำงานแทน เหมือนกับระบบการทำงานของเครื่องบินแอร์บัส “แบรเตน กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

รูปที่ 4 – ภารกิจของเรือ เอลลิ่ง คาลเซ่น คือการเทียบข้างเรือสำราญ เอ็ม เอส ซี สเพลนดิด้า ที่มีความยาวกว่า 333 เมตร และสูงกว่า 67 เมตร ซึ่งมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 4,000 คน กุสตาฟ ลินด์

กรมการบริหารชายฝั่งของนอร์เวย์พยายามที่จะจำแนก เรือเอลลิ่ง คาลเซ่น ออกจากเรือประเภทอื่นๆ เพราะด้วยความสวยงามและความทันสมัยของระบบต่างๆในตัวเรือที่เป็นเอกลักษณ์ เรือลำนี้จึงถูกยกให้เป็นเรือแห่งความภาคภูมิใจของชาวสฟาลบาร์เลยก็ว่าได้

เคอทิล แบรเตน ยิ้มและเห็นด้วยกับการยกให้เรือลำนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวสฟาลบาร์

รูปที่ 5 – วิวจากมุมสูงของเมืองลองเยียร์เบียน สฟาลบาร์ กุสตาฟ

https://www.scania.com/group/en/the-pride-of-svalbard/